หลักสูตรโอกาสทางธุรกิจและเทคโนโลยี
โรงปลูกพืชแนวตั้ง รุ่นที่ 2
(Mastering Vertical Farming Business and Technology: VFBT)
Key Highlights
-
- เข้าใจเทคโนโลยีโรงปลูกพืชแนวตั้ง (Vertical Farming) และเห็นโอกาสในการลงทุน
- สัมผัสเทคโนโลยีการผลิตจริง เรียนรู้รูปแบบธุรกิจ การตลาด และการบริหารจัดการ จากผู้ประกอบการและหน่วยงานชั้นนำที่ประสบความสำเร็จด้านการปลูกพืชแนวตั้ง ผ่านการศึกษาดูงานเชิงประจักษ์
- เก็บเกี่ยว Best Practices จากผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยประสบการณ์ เพื่อการสร้างธุรกิจอย่างยั่งยืน
- เข้าใจเทคโนโลยีโรงปลูกพืชแนวตั้ง (Vertical Farming) และเห็นโอกาสในการลงทุน
หลักการและเหตุผล
จากสภาวะแวดล้อมของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ความสมบูรณ์ของดิน น้ำ และอากาศ ที่เหมาะสมกับการเพาะปลูกพืชในแต่ละภูมิภาคลดลง อีกทั้งปัจจัยด้านความต้องการอาหารของจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น จึงนำไปสู่การพัฒนาการเพราะปลูกพืชในระบบปิด เพื่อควบคุมสภาวะต่างๆ ที่พืชต้องการ ทำให้โรงปลูกพืชแนวตั้ง (Vertical Farming) กลายเป็นเทรนด์ของโลกด้านเกษตรสมัยใหม่ที่หลายประเทศให้ความสนใจ จากการควบคุมการผลิตได้ด้วยเทคโนโลยี อีกทั้งเป็นการปลูกพืชในระบบปิด ทำให้ปราศจากโรคและแมลง ปลอดสารเคมี ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสนับสนุนให้โรงปลูกพืชแนวตั้งเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น ตามแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคที่รักสุขภาพ บริโภคผักที่ปลอดภัยจากสารเคมี ผู้ป่วยที่ต้องการควบคุมสารอาหารต่างๆ ตลอดจนสังคมผู้สูงอายุที่เกิดขึ้นในปลายประเทศทั่วโลก ทำให้คาดว่าโรงปลูกพืชแนวตั้งจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าโรงปลูกพืชแนวตั้ง (Vertical Farming) เป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจในฐานะเครื่องมือทางการเกษตรที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ในยุคเกษตร 4.0 เพื่อเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร โดยในประเทศไทยได้มีการนำโรงปลูกพืชแนวตั้งเข้ามาประยุกต์ใช้ในภาคเกษตรอย่างแพร่หลายเพิ่มมากขึ้น และสามารถทำในลักษณะการค้าเชิงพาณิชย์ได้ ตามแนวทางรูปแบบของภาครัฐและเอกชนที่ได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว ผนวกกับการที่ภาครัฐมีการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาสมุนไพรไทย และสนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตลอดจนกลุ่มทุนที่มีการถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเทรนด์ของสินค้าจำพวกเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มแพร่หลายมากขึ้นและมีราคาถูกลง ทำให้คาดว่า โรงปลูกพืชแนวตั้งจะเริ่มแพร่หลายตั้งแต่ในช่วงปี 2565 – 2569 โดยต้นทุนโรงปลูกพืชแนวตั้งอาจลดลงราวร้อยละ 20 ต่อปี อันจะทำให้ผู้ที่สนใจในธุรกิจโรงปลูกพืชแนวตั้งเข้าสู่ธุรกิจได้ง่าย และเพิ่มจำนวนมากขึ้น
(ข้อมูลจาก: https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/business/Pages/z2967.aspx สืบค้นข้อมูล ณ วันที่ 19 ต.ค 63)
ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ธุรกิจโรงปลูกพืชแนวตั้ง สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต จึงได้พัฒนาและออกแบบหลักสูตร “โอกาสทางธุรกิจและเทคโนโลยีโรงปลูกพืชแนวตั้ง” (Mastering Vertical Farming Business and Technology: VFBT) ขึ้น โดยมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี รูปแบบธุรกิจ การตลาด การบริหารจัดการโรงปลูกพืชแนวตั้ง และการเสริมสร้างประสบการณ์เชิงประจักษ์ผ่านการศึกษาดูงานระบบการปลูกพืชแนวตั้ง รวมถึงการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ เก็บเกี่ยว Best Practices จากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จริงในธุรกิจการปลูกพืชแนวตั้ง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้และประโยชน์ที่ได้รับไปพัฒนาต่อยอดเชิงธุรกิจได้ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับอุตสาหกรรมด้านเกษตรของประเทศไทยสู่ตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
-
- เพื่อเรียนรู้และสัมผัสเทคโนโลยีโรงปลูกพืชแนวตั้ง (Vertical Farming) และการผลิตจริงเชิงประจักษ์ผ่านการศึกษาดูงาน
- เพื่อเปิดมุมมองและเห็นโอกาสการทำธุรกิจ การตลาด และการบริหารจัดการ จากผู้ประกอบการและหน่วยงานชั้นนำด้านการปลูกพืชแนวตั้ง
- เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเก็บเกี่ยว Best Practices จากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จริงในธุรกิจการปลูกพืชแนวตั้ง ตลอดจนทราบถึงปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน
- เพื่อเรียนรู้และสัมผัสเทคโนโลยีโรงปลูกพืชแนวตั้ง (Vertical Farming) และการผลิตจริงเชิงประจักษ์ผ่านการศึกษาดูงาน
วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
ผู้เข้าร่วมอบรม
- ได้เรียนรู้และเข้าใจเทคโนโลยีโรงปลูกพืชแนวตั้ง (Vertical Farming) เทคโนโลยีนวัตกรรมด้านเกษตรยุค 4.0 และการผลิตจริง
- ได้ศึกษาดูงานเชิงประจักษ์จากหน่วยงานชั้นนำ เพื่อเปิดมุมมองและเตรียมความพร้อมในการทำธุรกิจโรงปลูกพืชแนวตั้ง (Vertical Farming)
- ได้เห็นโอกาสทางธุรกิจ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้และต่อยอดการพัฒนาธุรกิจโรงปลูกพืชแนวตั้ง (Vertical Farming) ได้
- ได้แลกเปลี่ยนความรู้และเก็บเกี่ยว Best Practices จากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จริง


กลุ่มเป้าหมาย
- นักลงทุน/ผู้ประกอบการ ที่สนใจการทำธุรกิจโรงปลูกพืชแนวตั้ง
- นักเทคโนโลยีการผลิตที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกษตร
- เกษตรกร/เกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) หรือบุคคลทั่วไป ที่สนใจธุรกิจเกษตรสมัยใหม่
- เจ้าหน้าที่/บุคคลากรภาคการศึกษา ภาครัฐ และภาคเอกชน ที่สนใจระบบการปลูกพืชแนวตั้ง (Vertical Farming System)
โครงสร้างหลักสูตร
เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีโรงปลูกพืชแนวตั้ง โอกาสทางธุรกิจ รูปแบบธุรกิจของโรงปลูกพืชแนวตั้ง การบริหารจัดการ และการตลาด ประกอบด้วย การบรรยาย และการศึกษาดูงาน รวมจำนวน 10 ชั่วโมง/2 วันทำการ ดังนี้
หัวข้อ | ชั่วโมง | ครั้ง (วัน) |
การบรรยาย และกรณีศึกษา | 6 | 1 |
การศึกษาดูงาน | 4 | 1 |
รวม | 10 | 2 วันทำการ |
เนื้อหาหลักสูตร ประกอบด้วย
-
-
- การบรรยาย และกรณีศึกษา
• เทคโนโลยีโรงปลูกพืชแนวตั้ง
• โอกาสทางธุรกิจและแนวโน้มการลงทุนในเทคโนโลยีโรงปลูกพืชแนวตั้ง
• รูปแบบธุรกิจ การบริหารจัดการ และการตลาด ของโรงปลูกพืชแนวตั้ง - การศึกษาดูงาน
• เทคโนโลยีโรงปลูกพืชแนวตั้ง
• รูปแบบธุรกิจ การบริหารจัดการ และการตลาด ของโรงปลูกพืชแนวตั้ง
- การบรรยาย และกรณีศึกษา
-
ระยะเวลาของหลักสูตร
ระหว่างวันที่ 30 – 31 มีนาคม 2566
เวลา 09.00 – 16.00 น.
(ระยะเวลาอบรมจำนวน 2 วัน)


ค่าลงทะเบียน
ท่านละ 9,900 บาท (จากราคาปกติ 13,500 บาท)
ราคานี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
***โปรโมชั่นพิเศษ!!! ลงทะเบียนพร้อมกัน 2 หลักสูตร
(VF2 รุ่นที่ 8 และ VFBT รุ่นที่ 2) รับส่วนลดทันที 10%
เหลือชำระเพียงท่านละ 12,060 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
หมายเหตุ
-
- กรุณาชำระเงิน ภายในวันที่ 22 มีนาคม 2566
- สถาบันฯ เป็นหน่วยงานราชการ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 3%
- ค่าลงทะเบียนรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ข้าราชการมีสิทธิ์เบิกค่าลงทะเบียนได้ตามระเบียบกระทรวงการคลังและเข้าร่วมอบรมสัมมนาโดยไม่ถือเป็นวันลา
- หากท่านต้องการยกเลิกการลงทะเบียนกรุณาแจ้งยืนยันการยกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 7 วันทำการก่อนวันจัดงาน หากการแจ้งยกเลิกล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนดดังกล่าว ทางสถาบันฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าดำเนินการ คิดเป็นจำนวนเงิน 30% จากค่าลงทะเบียนเต็มจำนวน
- ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงวิทยากรและกำหนดการบรรยายตามความเหมาะสม
ค่าใช้จ่ายในการส่งบุคลากรเข้าอบรมทางวิชาชีพของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 200%
- กรุณาชำระเงิน ภายในวันที่ 22 มีนาคม 2566
สถานที่จัดฝึกอบรม
โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค
เลขที่ 9 ถนนราชปรารภ แขวงประตูน้ำ
เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400


วิทยากรประจำหลักสูตร
คุณกฤษณะ ธรรมวิมล
CEO Wangree Fresh Plant Factory Startup
CONTACT
PHONE & E-MAIL
สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต
(Career for the Future Academy)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ : 0 2644 8150 ต่อ 81892 (คุณเมธภัค)
0 2644 8150 ต่อ 81904 (คุณสุรีย์)
โทรสาร : 0 2644 8110
E-MAIL : npd@nstda.or.th
ADDRESS